OpenOffice.org (โอเพนออฟฟิศ) เป็น
ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีความสามารถ และหน้าตาการใช้งานใกล้เคียงกับ Microsoft Office (ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ) องค์กรสามารถนำ OpenOffice.org มาให้พนักงานส่วนใหญ่ใช้ทดแทน Microsoft Office เพื่อประหยัดค่าไลเซนส์ได้อย่างมหาศาล เนื่องจาก Microsoft Office คิดราคาต่อผู้ใช้ประมาณ 15,000 บาท (มากพอจะซื้อเครื่องพีซีหรือเลเซอร์พรินเตอร์ได้หนึ่งเครื่อง) ขณะที่ OpenOffice.org เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สจึงไม่มีค่าไลเซนส์ ทำให้องค์กรสามารถติดตั้งให้พนักงานทั้งองค์กรได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากค่าใช้จ่ายในการ migrate ซึ่งหมายถึงการย้ายการใช้งานของผู้ใช้จากที่ใช้ Microsoft Office เป็นหลัก เปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org เป็นหลักแทน
องค์ประกอบของ OpenOffice.org
Application | OpenOffice.org | MS Office |
Word processor | Writer | Word |
Spreadsheet | Calc | Excel |
Presentation | Impress | PowerPoint |
Drawing | Draw | - |
Database | Base | Access |
ประหยัดได้เท่าไหร่?
ทุกองค์กรสามารถเปลี่ยน (migrate) มาใช้ OpenOffice.org ได้ ซึ่งจะได้ผลตอบแทนเป็นการประหยัดค่าไลเซนส์ได้เป็นหลักล้าน หลักสิบล้าน หรือร้อยล้านสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ คุณสามารถคำนวณตัวเลขความประหยัดขององค์กรของคุณด้วยเครื่องมือ
OpenOffice.org License Saving Calculator
เปลี่ยนอย่างไร?
เมื่อองค์กรของคุณตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนไปใช้ OpenOffice.org ปัญหาถัดมาคือ “จะเปลี่ยนไปใช้ OpenOffice.org ได้อย่างไร?” ฝ่ายไอทีมักจะมองว่าซอฟต์แวร์ออฟฟิศเป็นซอฟต์แวร์ที่ง่าย แต่การเปลี่ยนพนักงานส่วนใหญ่จาก Microsoft Office ไปใช้ OpenOffice.org ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย ไม่ต่างไปจากเวลาที่องค์กรกำลังจะเปลี่ยนจากระบบบัญชีไปใช้ระบบ ERP สาเหตุคือ
- มีผลกับพนักงานทุกคน เพราะทุกคนใช้ซอฟต์แวร์ออฟฟิศเกือบตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับองค์กร ซึ่งผู้บริหารระดับสูงต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่งานของฝ่ายไอที
- เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานของพนักงาน เป็นการเปลี่ยนแปลงใน workflow การทำงานประจำวันของเกือบทุกคน ซึ่งหมายความว่าต้องระวังไม่ให้การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบจนเป็นอุปสรรคต่องานประจำของพนักงานคนใด
โชคดีที่ปัจจุบันเรามีความเข้าใจในการจัดการการเปลี่ยนแปลง (change management) ในการนำ OpenOffice.org เข้าไปในองค์กรมากขึ้นกว่าแต่เดิมมาก ไม่เหมือนสมัยก่อนที่บางองค์กรคิดจะเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ออฟฟิศที่ชื่อปลาดาว ก็ใช้วิธีถอน Microsoft Office ทั้งหมดแล้วลงปลาดาวแทนภายในวันเดียว ผลก็คืองานสะดุดจนทำให้ต้องเปลี่ยนกับมาใช้ Microsoft Office (อย่างละเมิดลิขสิทธิ์) ภายในเวลาอันสั้น
ทุกองค์กรสามารถเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org ได้ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงก็มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวได้ สำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีผู้ใช้ไม่เกิน 100 คน ซึ่งไอทีรู้จักผู้ใช้ทุกคน ฝ่ายไอทีก็อาจจัดการการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองได้ แต่สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่หรือเครือบริษัท แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ฝ่ายไอทีจะวางแผนและรับมือกับปัญหาในระหว่างการเปลี่ยนแปลงได้ การใช้บริการ Osdev OpenOffice.org Migration จึงเป็นวิธีที่ประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณมากที่สุด ด้วยการลงทุนไม่ถึง 10% ของงบที่ประหยัดได้ หรือ ROI ที่มากกว่า 10 เท่า การตัดสินใจใช้ผู้ที่เชี่ยวชาญใน OpenOffice.org มากที่สุดในประเทศ (เรามีคอนซัลต์ที่ได้ OpenOffice.org Specialist certificate ครบทั้งหมดแล้ว 2 คน) จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
ความต้องการฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำ
ซีพียู | เดสก์ทอปหรือโน้ตบุค ที่มีโปรเซสเซอร์ความเร็ว 500 MHz หรือสูงกว่า |
หน่วยความจำ | - แรม 256 MB หากทำงานกับชีตขนาดใหญ่ ต้องมีแรมมากพอเช่น 1-2 GB
- ฮาร์ดดิสก์เนื้อที่ว่างอย่างน้อย 800 MB
|
หน้าจอ | ความละเอียด 800x600 จำนวน 256 สี ขึ้นไป |
ระบบปฏิบัติการ | - Windows 98, ME, 2000 (SP2 ขึ้นไป), XP, 2003, Vista, 7
- Mac OS X
- Linux เดสก์ทอปเช่น Ubuntu, Red Hat หรือระบบที่ใช้ X Window เช่น Solaris
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น